8.6.11

ลักษณะการสั่งสอนของพระพุทธเจ้า 3 อย่าง



กล่าวตามแบบแผนทั่วไป การสอนของพระพุทธเจ้าแบ่งออกเป็น 3 อย่าง คือ
    1. ทรงสอนให้รู้ยิ่งเห็นจริงในธรรมที่ควรรู้ควรเห็น
    2. ทรงสั่งสอนมีเหตุผลที่ผู้ฟังอาจตรองตามให้เห็นนจริงได้และ
    3. ทรงสั่งสอนเป็นอัศจรรย์ที่ผู้ปฏิบัติย่อมได้รับผลตามสมควรแก่การปฏิบัติ 
ในที่นี้ข้าพเจ้าประสงค์จะตั้งข้อสังเกตเป็นส่วนตนเองในการสอนของพระพุทธเจ้าโดยแบ่งหลักการสอนออกเป็น 3 ประการเหมือนกัน คือ
1. ทรงสั่งสอนโดยการปฏิวัติ  เป็นการ “เปลี่ยน”  หลักคำสอน ดั้งเดิมของศาสนาพื้นเมืองอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ
2. ทรงสั่งสอนโดยการปฏิรูป  เป็นการสอนโดยวิธีดัด  “แปลง”  ของเก่าที่ยังไม่ดีให้ดีขึ้นหรือของเก่ามีความหมายอย่างหนึ่งแต่นำมาแปลความ หมายเสียใหม่เพื่อให้ตรงกับหลักเหตุผลยิ่งขึ้น
3. ทรงสั่งสอนโดยตั้งหลักขึ้นใหม่  ที่ยังไม่มีในที่อื่น แต่ก็เป็นไปตามหลักสัจธรรมที่ทรงค้นพบ
เพื่อที่จะขยายความแห่งหลักการสอน 3 ประการนี้ ข้าพเจ้าขอถือโอกาสอธิบายไว้ในที่นี่สักน้อย
1. การสอนโดยวิธีปฏิวัติ  นั้นหมายถึงการเปลี่ยนหลักการเดิมที่สอนกันมาทั้งหมด เช่น
  • การสอนให้ฆ่าสัตว์บูชายัญของศาสนาพราหมณ์พระพุทธเจ้าทรงปฎิเสธและสอนในทางตรงกันข้ามให้มีเมตตากรุณาต่อสัตว์แทน
  • การสอนให้ทรมานตนในการปฎิบัติเพื่อบรรลุคุณธรรมชั้นสูง พระพุทธเจ้าทรงทดลองมาแล้ว เห็นว่าไม่ใช่ทางตรัสรู้ ทรงสอนให้ใช้วิธีอื่นที่เรียกว่าทางสายกลางเป็นการอบรมกายวาจาใจในทางประพฤติปฎิบัติที่ชอบแทน
  • การสอนว่ามีอัตตาตัวตน หรือที่เรียกว่าอาตมันเป็นหลักใหญ่ในศาสนาพราหมณ์ ทรงสอนในทางตรงกันข้ามที่เรียกว่าอนัตตาเพื่อไม่ให้ยึดมั่นในตัวตนแทน
ในที่นี้ขอพูดแทรกเรื่องการปฎิวัติ(Revolution) สักเล็กน้อยคำนี้ใช้ใกล้กับคำว่า วิวัฒน์(Evolution)
ปฎิวัติหมายถึงการเปลี่ยนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

ส่วนวิวัฒน์หรือวิวัฒนาการหมายถึงความค่อยๆ เจริญขึ้นทั้งในทางธรรมชาติและความเป็นอยู่ของมนุษย์

การ สอนศาสนาของพระพุทธเจ้าบางครั้งมีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนหลักการที่สอนกัน อยู่ดั้งเดิมอย่างตรงกันข้ามก็ต้องสอนในทำนองนี้ เพื่อจูงใจให้เข้าใจหลักที่แท้จริงทางพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น
2. การสอนโดยวีธีปฎิรูป  (Reform) คือดัดแปลงของเก่าให้ดีขึ้นโดยอธิบายความหมายใหม่บ้าง โดยให้เหตุผลใหม่บ้าง เช่น
  • คำสอนเรื่องพราหมณ์ ว่า ได้แก่ ผู้ประเสริฐโดยชาติกำเนิด คือ เกิดจากมารดาบิดาอยู่ในวรรณะพราหมณ์
    พระพุทธเจ้าทรงอธิบายใหม่ว่า คนเราไม่เป็นพราหมณ์หรือผู้ประเสริฐเพราะชาติสกุล แต่เป็นผู้ประเสริฐ เพราะการกระทำหรือความประพฤติ
  • ศาสนาพราหมณ์สอนว่าให้ลงอาบน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ แล้วจะบริสุทธิ์จากบาปได้
    พระพุทธศาสนาสอนให้อาบน้ำในแม่น้ำคือศีล ได้แก่ ตั้งอยู่ในศีลธรรมอันเป็นการอาบที่ตัวไม่เปียก แต่ทำให้บริสุทธิ์สะอาดได้ดีกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ แม้น้ำดื่มในถ้วยก็เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว
  • เรื่องเทวดาจริงๆ ที่สอนกันอยู่ทั่วไป
    พระพุทธศาสนาสอนว่า คนเราอาจเป็นเทวดาได้โดยตั้งอยู่ในคุณธรรม เช่น ความละอายแก่ใจ ความเกรงกลัวต่อบาป เป็นต้น
3. การสั่งสอนโดยตั้งหลักขึ้นใหม่  เป็นสิ่งจำเป็น ในเมื่อพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ตั้งขึ้นในท่ามกลางศาสนาอื่น ถ้าไม่มีอะไรเป็นของตนเองเลย ก็ไม่ควรนับเป็นศาสนาที่ตั้งขึ้นใหม่ เพราะการค้นพบความจริงที่ยังไม่มีใครพบ
  • ดังจะเห็นได้ในเรื่องหลักธรรมเรื่อง ความพ้นทุกข์ที่เรียกว่าอริยสัจ 4 ประการ เป็นหลักธรรมที่ตั้งขึ้นใหม่อันแสดงไว้ชัดทั้งเหตุและผล คือการจะพ้นทุกข์ก็ต้องรู้ว่าอะไรเป็นตัวความทุกข์ อะไรเป็นต้นเหตุของมัน การดับความทุกข์ คือดับอะไร และทำอย่างไร หรือปฏิบัติอย่างไรจึงจะดับทุกข์ได้ และหลักธรรมเรื่องอริยสัจนี้
  • พระองค์ทรงแสดงว่าได้ปฏิบัติมาแล้วด้วยพระองค์เองจนเกิดผลแล้ว จึงได้ทรงนำมาสั่งสอน

ผู้แต่ง  อ.สุชีพ  ปุญญานุภาพ
จากหนังสือ  ลักษณะพิเศษแห่งพระพุทธศาสนา
ที่มา : โอเคเนชัน/ลักษณะการสั่งสอนของพระพุทธเจ้า 3 อย่าง

No comments:

Post a Comment

คนมีธรรม