การเพ่งโทษผู้อื่นเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นการทำให้จิตใจตนเองสบาย
ตรงกันข้าม กลับเป็นการเพิ่มความไม่สบายให้ยิ่งขึ้นเพียงนั้น
แต่ถ้าหยุดเพ่งโทษผู้อื่นเสีย
เขาจะพูดจะทำอะไรก็ตาม อย่าไปเพ่งดู
ให้ย้อนเข้ามาเพ่งดูใจตนเอง
ว่ากำลังมีความสุขทุกข์อย่างไร มีอารมณ์อย่างไร
ใจจะสบายขึ้นได้ด้วยการเพ่งนั้น
กล่าวสั้นๆ คือ การเพ่งดูผู้อื่นทำให้ตนเองไม่เป็นสุข
แต่การเพ่งดูใจตนเองทำให้เป็นสุขได้
แม้กำลังโกรธมาก หากเพ่งดูใจตนเองให้เห็นว่ากำลังโกรธมาก
ความโกรธก็จะลดลง
เมื่อความโกรธน้อย หากเพ่งดูใจตนเองให้เห็นว่ากำลังโกรธน้อย
ความโกรธก็จะหมดไป
จึงกล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะกำลังมีอารมณ์ใดก็ตาม
โลภหรือโกรธ หรือหลงก็ตาม
หากเพ่งดูใจตนเองให้เห็นอารมณ์นั้นแล้ว
อารมณ์นั้นจะหมดไป ได้ความสุขมาแทนที่ทำให้มีใจสบาย
ทุกคนอยากสบาย แต่ไม่ทำเหตุที่จะให้เกิดเป็นความสบาย
ดังนั้น จึงยังหาผู้สบายได้น้อยเต็มที
ยิ่งกว่านั้น ทั้งๆ ที่ทุกคนอยากสบาย
แต่กลับไปทำเหตุที่จะให้ผลเป็นความไม่สบายกันเป็นส่วนมาก
ดังนั้น จึงได้รับผลเป็นความไม่สบายตามเหตุที่ทำ
เพราะดังได้กล่าวแล้ว ทำเหตุใดต้องได้รับผลของเหตุนั้นเสมอไป
เหตุดีให้ผลดี เหตุชั่วให้ผลชั่ว
เหตุแห่งความสุขให้ผลเป็นความสุข
เหตุแห่งความทุกข์ให้ผลเป็นความทุกข์
ต้องทำเหตุให้ตรงกับผล จึงจะได้ผลที่ปรารถนาต้องการ
ควรมีสติระลึกถึงความจริงนี้ไว้ให้สม่ำเสมอ...
ตรงกันข้าม กลับเป็นการเพิ่มความไม่สบายให้ยิ่งขึ้นเพ
แต่ถ้าหยุดเพ่งโทษผู้อื่นเสีย
เขาจะพูดจะทำอะไรก็ตาม อย่าไปเพ่งดู
ให้ย้อนเข้ามาเพ่งดูใจตนเอง
ว่ากำลังมีความสุขทุกข์อย่างไร มีอารมณ์อย่างไร
ใจจะสบายขึ้นได้ด้วยการเพ่งนั้น
กล่าวสั้นๆ คือ การเพ่งดูผู้อื่นทำให้ตนเองไม่เป็นสุข
แต่การเพ่งดูใจตนเองทำให้เป็นสุขได้
แม้กำลังโกรธมาก หากเพ่งดูใจตนเองให้เห็นว่ากำลังโกรธมาก
ความโกรธก็จะลดลง
เมื่อความโกรธน้อย หากเพ่งดูใจตนเองให้เห็นว่ากำลังโกรธน้อย
ความโกรธก็จะหมดไป
จึงกล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะกำลังมีอารมณ์ใดก็ตาม
โลภหรือโกรธ หรือหลงก็ตาม
หากเพ่งดูใจตนเองให้เห็นอารมณ์นั้นแล้ว
อารมณ์นั้นจะหมดไป ได้ความสุขมาแทนที่ทำให้มีใจสบาย
ทุกคนอยากสบาย แต่ไม่ทำเหตุที่จะให้เกิดเป็นความสบาย
ดังนั้น จึงยังหาผู้สบายได้น้อยเต็มที
ยิ่งกว่านั้น ทั้งๆ ที่ทุกคนอยากสบาย
แต่กลับไปทำเหตุที่จะให้ผลเป็นความไม่สบาย
ดังนั้น จึงได้รับผลเป็นความไม่สบายตามเหตุที่ทำ
เพราะดังได้กล่าวแล้ว ทำเหตุใดต้องได้รับผลของเหตุนั้นเสมอไป
เหตุดีให้ผลดี เหตุชั่วให้ผลชั่ว
เหตุแห่งความสุขให้ผลเป็นความสุข
เหตุแห่งความทุกข์ให้ผลเป็นความทุกข์
ต้องทำเหตุให้ตรงกับผล จึงจะได้ผลที่ปรารถนาต้องการ
ควรมีสติระลึกถึงความจริงนี้ไว้ให้สม่ำเสม
---------------------------
พระนิพนธ์ใน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
No comments:
Post a Comment