•คำตรัสของพระพุทธเจ้า
"หูเบา" •บุคคลไม่ควรพยายามเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ควรเป็นตัวของตัวเอง ไม่ควรอาศัยผู้อื่นเลี้ยงชีพ และไม่พึงมีแผลประพฤติธรรม •บุคคลชื่อว่า เป็นคนดีด้วยเหตุเพียงรูปร่าง ผิวพรรณก็หามิได้ ไม่ควรไว้ใจคนที่เห็นเพียงครู่เดียว คนชั่วเป็นอันมากเที่ยวไปด้วยรูปลักษณะแห่งคนดี •เหมือนหม้อดินและหม้อโลหะซึ่งฉาบไว้ด้วยสุวรรณ มองแวววาวแต่เพียงภายนอก แต่ภายในไม่สะอาด คนชั่วในโลกนี้ •เมื่อบริวารแวดล้อมแล้วก็เที่ยวไปได้อย่างคนดี เขางามแต่ภายนอก แต่ภายในไม่บริสุทธิ์ •เหตุแห่งคำตรัส:พระเจ้าปเสนทิโกศล •เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศล กล่าวสรรเสริญพระพุทธองค์ว่าเป็น"สัพพัญญู"รู้แจ้งแทงตลอดโดยแท้ ณ ที่ประตูวัดบุพพาราม พระพุทธองค์ก็เปล่งคำตรัสออกมาดังกล่าว เพื่อเตือนสติพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้เป็นคนเบาปัญญา และหูเบา เชื่อคนรอบข้างโดยง่าย จนเกิดเหตุโศกที่พระนาฏกรรมที่พระองค์วางแผนลอบฆ่าพันธุลเสนา ผู้เป็นทั้งพระสหายผู้เก่งกล้า และสวามิภักดิ์ต่อพระองค์อย่างถึงที่สุด พร้อมด้วยลูกชายทั้งสิ้น ๓๒ คน เพราะเชื่อเสนาบดีรอบข้างที่ริษยาพันธุลเสนา ยุแหย่ใส่ร้ายว่าจะชิงบัลลังก์นั่นเอง พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงตรอมใจ ไร้สุขเป็นทุกข์ตลอดเวลา •เมื่อทราบความจริงทั้งหมด นางมัลลิกา ชาวกุสินารา คือภรรยาพันธุละ เป็นพุทธมามกะที่เคร่งในพระธรรมวินัยอย่างยิ่งนางเป็นผู้หนึ่งในสามคนที่มี เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมดเพียง ๓ คนเท่านั้น คือ นางมัลลิกา นางวิสาขา และนางเศรษฐีธิดา ผู้เป็นภริยาแห่งเทวปานิยสารคฦหบดี เมืองพาราณสี และนางนี่แหละเป็นผู้ถวายเครื่องมหาลดาปสาธน์คลุมพระบรมศพของพระพุทธเจ้า
"หูเบา" •บุคคลไม่ควรพยายามเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ควรเป็นตัวของตัวเอง ไม่ควรอาศัยผู้อื่นเลี้ยงชีพ และไม่พึงมีแผลประพฤติธรรม •บุคคลชื่อว่า เป็นคนดีด้วยเหตุเพียงรูปร่าง ผิวพรรณก็หามิได้ ไม่ควรไว้ใจคนที่เห็นเพียงครู่เดียว คนชั่วเป็นอันมากเที่ยวไปด้วยรูปลักษณะแห่
**************
ที่มา---พระนริศ กิตฺติฐาโน
No comments:
Post a Comment