กฎแห่งกรรม แตกต่างจาก พรหมลิขิตอย่างไร....
บางท่านโจมตีศาสนาพุทธว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของทาส คือสอนให้ชนชั้นล่างยอมรับในการถูกกดขี่ โดยใช้ทฤษฏีกรรมเก่า เหมือนกับศาสนาฮินดู ที่เชื่อในเรื่อง พรหมลิขิต คือ กรรมในอดีตชาติส่งผลในชาติปัจุบัน-อนาคตขอ งเรา พระเจ้ากำหนดแผนที่ชีวิตของเราไว้แล้ว เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
แต่โดยแท้จริงแล้วศาสนาพุทธของเราลึกซึ้งกว่านั้นมาก พระพุทธองค์ทรงสอนว่า เราสามารถทำกรรมใหม่ ไปเปลี่ยนแปลงกรรมเก่าได้ ผลของกรรมใหม่ มันจะไปเปลี่ยนแปลงแผนที่เดิมของกรรมเก่าห
เพียง แต่ผลของการเปลี่ยนแปลงนั้น มันจะเร็วหรือช้าเท่านั้น ไม่ใช่เราทำอะไร แก้กรรม(พรหมลิขิต)อะไรไม่ได้เลย ต้องยอมรับพรหมลิขิตหรือวิบากกรรมเก่าสถาน
เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ กรรมเก่าหรือพรหมลิขิตก็คือ ไอ้ที่เรากำลังเป็นอยู่และเคยเป็นมาแล้ว ส่วนกรรมใหม่ก็คือ ไอ้ที่กำลังจะทำและกำลังทำอยู่ หรือทำไปแล้วในชาตินี้แต่ยังไม่ส่งผลให้เห
ขบวนการของกรรมเก่าที่ได้ให้ผลหรือกำลังให้ผล ที่เรียกว่าพรหมลิขิต + กรรมใหม่ที่กำลังจะทำ ที่กำลังทำอยู่ และที่ทำไปแล้วในชาตินี้ แต่ยังไม่ส่งผลให้เห็นตอนนี้ รวมทั้งหมดพระพุทธองค์เรียกว่า กฎแห่งกรรม
พูดอีกแง่หนึ่ง พรหมลิขิต คือ กฎแห่งกรรมในอดีตที่มีผลต่อปัจจุบันและอนา
เราคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า การเด็ดดอกไม้เพียงดอกเดียวสะเทือนไปถึงดวงดาว มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เราตัดสินใจทำกรรมดีกรรมชั่วในตอนนี้ มันสะเทือนไปถึงปัจจุบันและอนาคตของเราด้ว
ผมจะขอยกตัวอย่างพระอริยะเจ้าที่ทำนายผิดพ
1. หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
หลวงพ่อจรัญทำนายว่า.....อาตมาจะมรณภาพวัน
นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดเดิมขอ
เมื่อ ถึงเวลานั้น หลวงพ่อจรัญท่านก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำคอหักจริงๆ แต่ท่านไม่ตาย ด้วยเหตุที่หลวงพ่อจรัญได้สำนึกบาปที่ฆ่าหักคอไก่จำนว
นี่คือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดใหม่ของ
วิเคราะห์
- หลวงพ่อจรัญมองเห็นกรรมเก่าที่จะให้ผล(ตาม
- หลวงพ่อจรัญมองไม่เห็นกรรมใหม่ที่จะให้ผลท่านทำกรรมใหม่ คือ สำนึกบาปที่ฆ่าหักคอไก่จำนวนมาก และแผ่เมตตาให้ไก่เหล่านั้น
- กรรมใหม่ส่งผลเปลี่ยนพรหมลิขิต กฎแห่งกรรมในอดีต จึงให้ผลไม่ได้เต็มกำลัง เพราะโดนวิบากกรรมดีในชาตินี้ช่วยไว้
2. พระสารีบุตร
ในครั้งพุทธกาล พระสารีบุตรและภิกษุอื่นๆ ต่างไม่ได้ให้พรเณรบวชใหม่คนหนึ่งให้มีอายุยืน เพราะวิบากกรรมของเขาต้องตาย ถึงฆาตแน่ พระสารีบุตรได้เล็งเห็นว่า เณรผู้นี้จะมรณะในอีก 7 วัน
ท่านจึงอนุญาตให้เณรกลับไปเยี่ยมบ้าน เพื่อโปรดบิดามารดาและญาติโยมทางบ้านเป็นครั้งสุดท้าย
นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดเดิมขอ
เมื่อเพลาผ่านไปเจ็ดวัน เณรได้กลับมายังอารามเหมือนเดิมพระสารีบุตรเองแปลกใจว่า เพราะเหตุใดเณรคนนั้นไม่ตาย ท่านจึงได้สอบถามเณรว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างทางไปและกลับ เณรได้แถลงไขว่า ระหว่างทางที่ไปนั้น ได้พบปลาจำนวนหนึ่งตกคลักในหนองน้ำที่ใกล้
ด้วยญาณแห่งพระสารีบุตร ท่านก็ทราบได้ว่า ปลาเหล่านั้น คืออดีตเจ้ากรรมนายเวรของเณรผู้นั้นเอง และเมื่อเณรได้นำปลาไปปล่อยในแหล่งน้ำ เท่ากับว่าได้ทำบุญต่ออายุให้กับตัวเอง และเจ้ากรรมนายเวรนั้น จึงได้อโหสิกรรมให้เณร
นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดใหม่ขอ
*วิเคราะห์
- พระสารีบุตรมองเห็นกรรมเก่า(พรหมลิขิต/แผน ที่ชีวิต)ที่จะให้ผลให้เณรคนหนึ่งตาย
- พระสารีบุตรมองไม่เห็นกรรมใหม่ที่จะให้ผลให้เณรคนนั้นไม่ตาย ซึ่งเป็นตอนที่เณรคนนั้นเดินทางกลับบ้านเณรไปปล่อยปลา ซึ่งเป็นการทำกรรมใหม่ ทำให้กรรมเก่าของเณรไม่ส่งผล
มีแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั
กฎแห่งกรรมก็คือพรหมลิขิตนั่นเอง แต่กฎแห่งกรรมบอกวิธีการแก้พรหมลิขิต หรือ แก้แผนที่กฎแห่งกรรมในอดีต ที่ส่งผลถึงปัจจุบันและอนาคตเอาไว้ด้วย ถ้าเราทำตามพรหมลิขิต โดยไม่แก้ไขอะไรให้ดีขึ้น ก็เท่ากับเราไม่เข้าใจกฏแห่งกรรมอย่างแท้จ
No comments:
Post a Comment