10.1.11

พรหมลูกฟักเทวดา...

ท่านว่า พรหมลูกฟักเทวดานั้น มีจำนวนมากมาย ล่องลอยอยู่ในสวรรค์ชั้นพรหม
เป็นพรหมที่เคยปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในพระพุทธศาสนา แต่ไม่ปรากฎว่าด้วยกรรมใด
จึงลงท้ายด้วยการเปลี่ยนแปลง

ไม่ปฏิบัติพระพุทธศาสนาอย่างดีงาม
แต่ปฏิบัติไปตามความพอใจของตน ที่คิดว่าถูกต้อง
เป็นการปฏิบัติผิดต่อพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก
มีผลประการหนึ่งให้ต้องได้เป็นพรหมลูกฟัก

ท่านผู้รู้ผู้เห็นเล่าว่า เทพพรหมที่เป็นมนุษย์เคยปฏิบัติผิด
ต่อพระพุทธศาสนา จะมีโทษหนักประเภทหนึ่ง
คือต้องเปลี่ยนสภาพจากเทวดาชั้นพรหมไปเป็นเทวดาชั้นพรหมลูกฟัก

ท่านอธิบายว่าพรหมลูกฟักมีลักษณะเป็นพรหมเช่นที่ได้เกิดในสวรรค์ชั้นพรหม
ตามกรรมที่ได้ทำ เป็นกรรมดีจึงได้ภพชาติเป็นพรหม
แต่หลังจากเริ่มต้นด้วยการทำดีต่อพระพุทธศาสนา ได้ละเลยในการปฏิบัติกรรมดี

ไปพอใจความคิดความเห็นและการปฏิบัติของตนมีความสำคัญ มีความถูกต้อง
สมควรกว่าการปฎิบัติในพระพุทธศาสนาที่ตนเคยทำมา
จึงเปลี่ยนความคิดเห็นไปตามกรรมตามอำนาจความคิดเห็นความพอใจของตน
ซึ่งเมื่อเป็นการผิดต่อพระพุทธศาสนา ผลร้ายของกรรมประการหนึ่ง
คือต้องเปลี่ยนภพชาติ จากเป็นพรหม ไปเป็นพรหมลูกฟัก
เมื่ออำนาจของกรรมที่ปฎิบัติผิดต่อพระพุทธศาสนาส่งถึง
พรหมลูกฟักนั้น ท่านผู้รู้เล่าว่า จะมีสภาพเป็นพรหมที่กรรมดีนำให้ไปเกิดนั้นเอง
แต่เมื่อกรรมไม่ดีตามมาทัน พรหมลูกฟักยังมีคุณลักษณะเป็นพรหมอยู่เช่นเดิม
แต้จะมีกรรมไม่ดีเป็นผลเข้าห่อหุ้มพรหมเหล่านั้นไว้

ซึ่งท่านว่ามีมากมายนักในสวรรค์ชั้นพรหมแม้จะเป็นเทวดาชั้นพรหมที่งดงาม
แต่เมื่อถึงเวลากรรมให้ผล จะมีโทษของกรรมเข้าห่อหุ้ม พระพรพมซึ่งเป็นหนึ่งในเทวดา ก็จะถูก
กรรมห่อไว้หุ้มไว้ทั้งร่าง ไม่อาจเคลื่อนไหว ออกพ้นเครื่องห่อหุ้มได้ เห็นใครเห็นอะไรก็ไม่ได้
ปิดมิดอยู่ในเครื่องห่อหุ้มนั้นทั้งองค์ ไม่อาจใช้ปากใช้เท้าใช้มือที่มีอยู่พร้อมบริบรูณ์ได้

ต้องเป็นพรหมที่ถูกห้อมล้อมอยู่แน่นหนาภายในเครื่องแวดล้อม
ที่มีลักษณะของ “ลูกฟัก” ที่ทำให้เกิดคำว่า “พรหมลูกฟัก” ขึ้น
เป็นคำเรียกขานผู้เริ่มทำดีต่อพระพุทธศาสนา เป็นบุญเป็นกุศล แต่ลงท้าย
ด้วยการทำผิดทำบาปเป็นอกุศลต่อพระพุทธศาสนา.

***ที่มา-- Veera เหลืองชมพูเหนือหัวชาวไทย/fb.com

No comments:

Post a Comment

การให้อภัย