ผู้เขียนได้รับฟังเรื่องนี้มาจากอาจารย์ใหญ่ของผู้เขียน ท่านเป็นเพทย์ทีสอนผู้เขียนให้รู้จักกับการแก้ กัน ป้ด เป่าคุณไสย์ ช่วยบรรเทาเจ้ากรรมนายเวร เมื่อท่านสอนให้จนหมดแล้ว วันหนึ่งท่านเรียกผมไปพบและกล่าวกับผมอย่างจริงจังว่า
''มนู ผมถ่ายทอดวิชาที่ผมมีให้คุณหมดแล้ว ผมหวังเพียงว่าเมื่อผมไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว คุณคือผู้สืบทอดวิชามิให้สูญเปล่า ผมขอสัตย์จากคุณเพียงข้อเดียว เพราะผมไม่ต้องการให้คุณต้องมาพบชะตากรรมอย่างเดียวกับผม ยังไม่ต้องรับสัจจะเลยก็ได้ ฟังผมเล่าให้จบเสียก่อนค่อยว่ากันอีกที''
เมื่อผมเป็นหนุ่ม ผมเป็นเเพทย์ที่จบจากมหาวิทยาลัยเเพทย์ศาสตร์ศิริราช แล้วไปต่อการเเพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ผมกลับมาเป็นศัลย์เเพทย์ด้านศัลยกรรมประสาทที่มีชื่อเสียง ในตอนนั้นงานล้นมือ บางวันผมมีเคสผ่าตัดจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน คนใข้ของผมคนหนึ่งเป็นคุณหลวงที่ศึกษาวิชาว่าด้วยเทววิทยา และวิญญาณศาสตร์จากอินเดีย และศรีลังกา ผมผ่าตัดให้ทานหายจากอาการลำตัวซีกขวาชา เมื่อท่านเเข็งแรงดีแล้วก็ได้มาพบผมที่ทำงาน บอกกับผมว่า
''คุณหมอผมดูคนไม่ผิดหรอก อย่างคุณนะเรียนวิชาที่เกี่ยวกับเทววิทยาได้แน่ และเมื่อเรียนด้านวิญญาณศาสตร์แล้วจะมีสัมผัสที่หก ทำให้คุณสามารถเข้าสู่โลกเร้นลับได้อย่างง่ายดาย''
ผมรู้สึกงงอยู่ดีๆ ก็มีผู้มาบอกว่าผมเรียนวิชาเกี่ยวกับเทววิทยาและวิญญาณศาสตร์ได้ดี ผมจึงตอบท่านไปว่า
''ผมได้เคยเรียนแต่การสะกดจิต ตอนที่เรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ เมื่อผมเรียนเเพทย์ทำปริญญาโทอยู่ที่สเตทฯ ผมสนใจจึงเข้าเรียนวิชาสะกดจิตคนได้และทำได้จริง แต่ไม่เห็นเกี่ยวกับวิญญาณศาสตร์และเทววิทยาตรงใหนเลยครัีบคุณหลวง''
''เกี่ยวกันสิครับ เพราะการสะกดจิตคือการที่คุณอาศัยวิญญาณผู้อื่นเข้าไปในโลกวิญญาณ ย้อนหลังกลับไปได้นานเป็นร้อยเป็นพันปี พลังจิตคุณมันเหนือมนุษย์ธรรมดา อีกอย่างผมเห็นว่าคุณหมอไม่มีความโลภหรือเห็นแก่ได้ เป็นศัลย์เเพทย์ประสาทฝีมือดี แต่ไม่เคยตีค่าฝีมือเป็นเงิน ข้าราชการบำนาญอย่างผมรอดชีวิตมาได้เพราะคุณหมอนั้นแหละ ผมไม่มีปัญญาจ่ายค่าผ่าตัดเเพงๆหรอก คุณหมอเมตตาผ่าให้ คนอย่างคุณหมอทำงานด้านนี้ได้แน่''
''ผมจะเอาเวลาที่ใหนมาเรียนล่ะคุณหลวง แค่นี้ลูกเมียผมก็บ่นอุบแล้ว ว่าไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ผมคงต้องปฎิเสธความหวังดีของคุณหลวงแล้วล่ะครับ''
''ไม่เป็นไรครับคุณหมอ คุณหมอยังมีเวลาครัีบ ไม่ต้องรีบร้อน ผมเพิ่งเคยเห็นนี่เเหละ หลายต่อหลายคนที่รู้จักผม มักจะขอเล่าเรียน แต่ผมไม่ให้เพราะคุณสมบัติทีละความโลภอันเป็นกิเลสอย่างหยาบได้แบบคุณหมอ พวกเขาไม่มี แต่คุณหมอมีเหมือนผมมี ผมจึงเลือกคุณหมอ''
''ขอบพระคุณครับคุณหลวง หากผมต้องการจะรับถ่ายทอดผมจะเรียนให้คุณหลวงทราบ''
''แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมคุณจะต้องเรียน ทำไมผมจึงจะต้องสอน''
หลานสาวของผมเป็นเด็กดีแต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุระหว่างเธอวิ่งเล่นกับเพื่อน แล้วล้มหัวฟาดพื้นหมดสติไป น้องสาวผมรีบไปหาผมที่โรงพยาบาลโดยโทรตามให้ผมมาเป็นเจ้าของใข้ ผมส่งหลานสาวเข้าไปเอ็กซ์เรย์ทุกด้าน ไม่พบความผิดปกติ สมองไม่ได้รับความกระทบกระเทือน แต่หลานผมกลัีบหลับลึก ความรู้ที่ผมมีผมก็นำมาใช้จนหมด แต่ก็แก้ไขไม่ได้
ในที่สุดผมก็ยกหูโทรศํพท์ตามคุณหลวงท่านมาดูอาการ คุณหลวงท่านก็ดีใจหาย ให้คนรถขับรถมาหาผมที่โรงพยาบาล คุณหลวงเข้าไปนั่งสมาธิข้างเตียงของหลานสาวผม ครู่ใหญ่จึงลืมตาขึ้นมาบอกกับผมว่า
''นายเวรเขาตามมาเจอ ตอนนี้เขากักวิญญาณไว้ ไม่ยอมให้เข้าร่าง หากครบ 7วัน ผมเกรงว่าจะไม่รอด''
''มีเรื่องอย่างนี้ด้วยหรือครับคุณหมอ ผมว่ามันเหลือเชื่อ ผมเป็นเเพทย์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ ผมจะเชื่อก็เฉพาะที่มีสิ่งที่พิสูจน์ได้ อย่างนี้ผมว่ามันเหลวไหลสิ้นดีเลย''
คุณมนู....ผมเสียมารยาทกับคุณหลวงเพราะผมเกิดโทสะ หงุดหงิดว่าความรู้ของผมที่ศึกษามาัมันเสียเปล่า ช่วยหลานตัวเองไม่ได้
คุณหลวงท่านรักษามารยาทได้ดีกว่าผม ท่านลุกขึ้นยืนกล่าวอำลาผมและพูดว่า
''อารมณ์คุณย้งไม่ดี ผมจะกลับไปก่อน คุณเคยได้ยินประโยคโบราณนี้บ้างไหมล่ะ สามวันลูกผี เจ็ดวันลูกคน เกินสามวันละก็โอกาสช่วยได้มีน้อยลงทุกที ที่ผมมาเพราะคุณขอร้อง นั้นเป็นกฎของผมทียึดถือกันมาตั้งแต่สมัียปรมาจารย์โน่น ผมลาล่ะครับคุณหมอ''
เช้าวันที่สองน้องสาวของผมขอให้ผมติดต่้อกับคุณหลวง ผมจึงติดต่้อไปกับคุณหลวง คุณหลวงท่านบอกว่า ให้ผมพาน้องสาวไปพบที่บ้านของท่าน ในสวนลึกย่านบางขุนศรี ที่นั้่นคุณหลวงได้ให้น้ัองสาวของผมนั้งสมาธิสงบจิต ส่วนของคุณหลวงได้นั่งสมาธิตามไป
''ขอเชิญท่านผู้เป็นนายเวรได้ติดต่อเข้ามาทางร่างนี้ด้วยเถิดยังไม่สายเกินไป''
สิ้นคำของคุณหลวง น้องสาวผมจึงลืมตาขึ้น ผมไม่มีวันลืมสายตาคู่นั้นได้ตลอดชีวิต มันเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยแววอาฆาตมาดร้ัาย ไม่เหมือนเเววตาน้องสาวผม มีเส้นเลือดแดงผุดขึ้นจนบังนัยน์ตาขาว ยิ่งกว่าคนเป็นตาแดงเสียอีก เสียงที่เปล่งออกมาจากปากเป็นเสียงผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
''มึงถือดีอย่างไรมารบกวนกู มึงคิดว่ากูจะยอมง่ายๆอย่างนั้นเหรอ''
''หามิได้ แต่การจองเวรไม่สิ้นสุดมันไม่ดีทั้งสองฝ่ายทำไมไม่ตัดโซ่ให้มันขาดเสียเล่า''
''มึงคงไม่รู้ว่า กูคือนายเวรของอีเด็กคนนี้ื สองร้อยปีแห่งการรอคอยกว่าที่กูจะพบมัน เมื่อกูพบแล้ว กูก็จะแก้แค้นแล้วไปเกิดใหม่ ให้มันตามแก้แค้นไม่รู้ว่าปี''
ท้นใดนั้นคุณหลวงก็เปลี่่ยนอริยาบถ เสียงพูดก็เปลี่ยนเป็นเสียงทีมีอำนาจและหนุ่มกว่าอา่ยุ
''รู้ไหมที่พูดกับมึงอยู่นี่เป็นใคร''
สิ้นเสียงของคุณหลวง ร่างน้องสาวของผมสั้นเหมือนคนหวาดกลัวจนลนลาน
''คราวนี้จะเจรจาได้หรือไม่ กูไม่มีเวลามาก อีกอย่างหน้าที่่ที่ืกูรับผิดชอบมันใหญ่เกินเรื่องของพวกมึงนี่''
''ก็ได้ ก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน คราวนี้ไม่เป็นไร แต่ในชีวิตนี้ต้องผ่าตัดใหญ่เจียนตายหนึ่งครั้ง เป็นอันว่าเลิกแล้วต่อกัน''
''ดีที่สุด ดีที่สุด ดีกว่าที่จะให้กูทำให้มึงไม่ต้องมีโอกาสได้ผุดได้เกิดอีก มึงก็รู้นี่ว่ากูทำได้จริง''
ร่างของน้องสาวผมฟุบหน้าลงกับพื้นแล้วนิ่งเงียบไป ส่วนคุณหลวงหันมามองผมด้วยสายตาประหลาดก่อนที่จะพูดกับผมว่า
''นักวิทยาศาสตร์เป็นเเพทย์ที่เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ หลานมึงแข็งแรงเมื่อใด มึงสะกดจิตมัน แล้วมันจะเล่าเรื่องให้มึงฟังเองแหละ กูไปล่ะไอ้หมอ''
ร่างของคุณหลวงหงายหลังแน่นิ่งไปอีกคน ระหว่างทางกลับน้องสาวของผมเล่าให้ฟังว่า ก่อนจะหมดสตินั้นมีเงามืดๆมาทับด้านหลัง รู้สึกอึดอัด จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ส่วนทีมาอยู่ในร่างคุณหลวง ผมมารู้ภายหลังว่าคือ
''ท่านจตุโลกบาลทีมีพระนามว่าท่านพ่อท้าวเวสสุวัณ''
สามเดือนต่อมาผมสะกดจิตหลานสาวผมให้ย้อนเวลาเข้าไปเมื่อสองร้อยกว่าปีมาแล้ว ตกอยู่ในยุคกรุงศรีอยุธยา ที่ทำให้ผมกับน้องสาวตกใจมากก็คือเสียงพูดของหลานสาวเป็นภาษาพม่า ที่แสดงอาการสะใจอะไรสักอย่าง ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าวิญญาณของผู้หญิงที่เคียดแค้นหลานสาวผมน่าจะเป็นชาวกรุงศรีอยุธยาที่ถูกพม่าที่เกิดมาเป็นหลานสาวผมในชาตินี้ฆ่าข่มขืน
นับแต่วันนั้นมาผมก็ยอมเป็นศิษย์ของคุณหลวงเล่าเรียนจนสำเร็จ ก่อนคุณหลวงจะถึงเเก่กรรมประมาณ 3เดือน ผมไปเยี่ยมท่านที่บ้าน ท่านให้ผมรับปากกับท่านอย่างหนึ่ง
''ไม่ยากหรอกคุณหมอ ห้ามเสนอตัวช่วยใครเด็ดขาด ต้องให้เขามาพูดขอร้องจึงทำให้ ถือว่าเป็นผู้เคยสงเคราะห์กันมาก่อน ดูตอนที่ผมไปช่วยหลานสาวคุณหมอ ผมไม่ได้ไปเอง แต่คุณหมอขอร้องให้ผมช่วยตากหาก คุณหมอต้องจำไว้นะครับว่าการบางอย่างก็ควร บางอย่างก็ไม่ควร ผมเป็นห่วง รับปากผม ผมก็จะได้นอนตายตาหลับ''
ผมรับปากคุณหลวงแต่แล้วผมก็กลับละเมิด ลูกสาวของผู้อำนวยการ พบสิ่งผิดปกติเป็นเส้นผมมนุษย์ปอยหนึ่งตกอยู่บนที่นอนของบลูกสาวท่านผู้อำนวยการ ผมสัมผัสกลิ่นสาปสางได้ ผมลืมสัญญาทีให้ไว้กับคุณหลวง ผมนำเส้นนั้นกลับไปทำพิธีที่บ้าน บอกกับท่านผู้อำนวยการว่าผมจะช่วยให้ถึงทีสุด
ผมทำพิธีอยู่ 7วัน ลูกสาวท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลหายป่วยเป็นปกติ ไม่กี่เดือนต่อมาขณะที่ผมนอนไม่หลัีบรู้่สึกว่าเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นแต่รู้ตัวทั้งหมด ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อผม
''ไอ้เชวง ไอ้เชวง มึงออกมาคุยกับกูนี่ำไอ้เชวง''
ผมลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่ประตูและออกไปที่ระเบียงตามเสียงเรียก จากระเบียงผมมองลงไปที่ต้่นปาล์มก็เห็นชายคนหนึ่งผิวดำ ผมหยิก ตาพอง ยืนกอดอก ท่อนบนเปลือยเปล่า สวมกางเกงแบบชาวเล เมือเห็นผมยืนหน้าออกไปที่ระเบียงก็ยกมือขวาขึ้่นชี้หน้าผมแล้วพูดเป็นภาษาใต้จับใจไ้ด้ว่า
''กูเป็นเจ้ากรรมนายเวรกับอีนางนั้น มันเป็นไต้ัก๋งเรือ ร้อยปีก่อน มันใช้มีดฟันกูตกเรือถูกฉลามกินน่าอนาถ กูตามล้างแ้ค้นม้นมานานชาตินี้มัีนเกิดเป็นผู้หญิง กูได้โอกาสจะล้างแค้นมัน มึงก็มาขัดขวางจนกูทำอะไรมันไม่ได้ กูมิได้เกรงมึง แต่เกรงเจ้านายกู เพราะมึงมันแส่เอง ตอนนี้กูจะเอาของรักของมึงไป มึงเตรียมตัีวไ้ว้แต่เนิ่นๆ''
เชื่อไม๊คุณมนู สองเดือนต่อมา ลูกชายผมที่เป็นนักเรียนเเพทย์ขับรถไปชนเสาไฟฟ้าอาการสาหัส ผมไปดูลูกแกยังมีสติ แกพูดกับผมว่า
''ผมไม่ได้ประมาทนะพ่อ แต่หมอนั้ื่นมันวิ่งตัดหน้าผม แต่งแต่เหมือนพวกตังเก ผมหักหลบเลยเเหกโค้งชนรถเสาไฟฟ้า''
ลูกชายผมเสียชีวิตในเวลาต่อมา
''นี่แหละคุณมนูผมจึงให้คุณรับปากผมว่าคุณอย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นโดยที่เขามิได้ขอร้อง มันเป็นการไปตัดวงจรของเขาให้ยาวออกไป ผมเสียใจมากแต่ก็แก้ไขอะไรมิได้แล้ว มันสายเกินแก้''
ผู้เขียนฟังแล้วรู้สึกสยองเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อตัดสินใจเรียนแล้ว จะไปกลัวอะไร ผู้เขียนจึงตัดสินใจร้ับสัจจะกับคุณหมอที่เป็นอาจารย์สอนผม คุณหมอมีสีหน้าชุ่มชื่นจนเห็นได้ชชัด
นี้่เเหละครับ เจ้่ากรรมนายเวรคือผู้ทีติดตามล้างแค้นผู้ที่ทำให้ตนเดือดร้อน นายเวรคือเจ้ากรรมนายเวรที่ตามพบผู้ที่ตัวเองได้จองเวรเอาไว้นั่นเอง กรรมใดใครก่อ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้ิน อยู่ทีว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
credit -- หนังสือกรรมกำหนดกรรม(แสน วิชาชาญ)