19.7.13

ไม่รักไม่ทุกข์





ความรักมีที่ไหน ความสะเทือนใจมีที่นั่น พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ ปิยะโต ชายะเต โสโก ความเศร้าโศกเสียใจเกิดจากความรัก ปิยะโต ชายะเต ภะยัง ภัยอันตรายจะมีขึ้นได้ก็เพราะอาศัยความรัก”

ก็รวมความว่า เราก็ยังมีทุกข์ ในเมื่อเรามีรักเราก็ยังมีทุกข์ ถึงแม้ว่าจะรักน้อยๆ มันก็ทุกข์น้อยๆ อย่าลืมนะว่า ถ้ารักบ่อยๆ มันก็ทุกข์มาก ดูตัวอย่างน้ำฝน ตกทีละหยาดๆ สามารถทำภาชนะให้เต็มได้ฉันใด ความรักเป็นปัจจัยของความทุกข์ แม้ว่ามันจะรักเบาๆ แต่รักทุกๆ วัน มันไม่คลาย มันก็เพิ่มความหนัก

ความโกรธ ความไม่ชอบใจก็เหมือนกัน มันจะมีเบาๆ ไม่หนัก แต่ว่ามันก็หนักอยู่บ้าง เหมือนกับเรามีแผลไม่โต แต่มีแผลสะกิดด้วยปลายเข็ม มันก็จะมีการเจ็บถ่วงจิตไม่ให้เป็นสุข ข้อนี้อุปมาฉันใด คนที่มีปัญญาก็คิดว่า ถ้าเรายังต้องเกิดเป็นคนอีกชาติหนึ่ง ถึงแม้จะได้ไปนิพพานมันก็ยังเป็นทุกข์ ทางที่ดีถ้ายังไปนิพพานไม่ได้ เราไปค้างแค่เทวดาหรือพรหมดีกว่า

คราวนี้ทำยังไง ก็ต้องใช้กำลังใจสูงหน่อย แต่สำหรับท่านที่ได้ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ เป็นของไม่หนัก ก็ใช้อตีตังสญาณได้ ดูเรื่องราวของคนอื่นด้วยอตีตังสญาณ ดูเรื่องราวของเราด้วยปุพเพนิวาสานุสติญาณ

ดูว่า ความรักในระหว่างเพศทุกชาติที่เรามีอยู่ มันมีความสุขหรือความทุกข์ ร่างกายของคนทุกชาติมันมีความสะอาดหรือมันมีความสกปรก แล้วเวลาที่เราจะแต่งงาน เราก็เลือกผู้หญิงต้องลักษณะอย่างนี้ ผู้ชายต้องลักษณะอย่างนี้ มีนิสัยอย่างนั้น มีนิสัยอย่างนี้ ทั้งผู้หญิงผู้ชายต้องมีคุณสมบัติอย่างนั้นอย่างนี้เราจึงจะชอบใจ เราเลือกเอาคนที่สวย คนที่สง่าตามที่เราชอบ แต่ว่าความสวยความสง่ามันทรงตัวไหม ไม่กี่วันมันก็เสื่อม ทีนี้พอหมดสวย หมดสง่าทำอย่างไร ก็จำใจจำกลืน ถ้ายังมีอารมณ์หลงอยู่ในกามารมณ์เข้าสนับสนุนเราก็ทุกข์ เราอยู่กับความสกปรก แต่เราไม่ฉลาด ไม่มีปัญญา เราก็มีความเข้าใจว่า ไอ้ความสกปรกทั้งหลายเหล่านั้นมันเป็นของสะอาด หลงความสกปรกว่าเป็นของสะอาด ชื่นชมยินดีกับความสกปรก แต่ความจริงบางขณะก็รู้สึกว่าสกปรก พอหน้ามืดขึ้นมา เห็นขี้เป็นทองคำ และเห็นอุจจาระเป็นน้ำหอม มันเป็นอย่างนี้

ทีนี้คนที่มีปัญญาท่านคิดว่าไม่เอา ตัดมันไปเสียเลย ไอ้การตัดไปเสียเลยใช้อะไร ความรักใช้ กายคตานุสสติกับอสุภกรรมฐาน บวก สักกายทิฏฐิ เห็นว่าร่างกายของเราเต็มไปด้วยความสกปรก แล้วผลที่สุดไอ้ร่างกายที่เต็มไปด้วยความสกปรกโสโครกนี้มันไม่มีอะไรดี ความจริงไม่ใช่ร่างกายของเรา มันเป็นร่างกายที่กิเลส ตัณหา อุปาทาน สร้างขึ้น ไม่มีอะไรดีเลย ตัดกำลังใจทิ้งมัน คิดว่าสภาวะความสกปรกอย่างนี้เราไม่ต้องการมันอีก จิตก็สลัดจากความรักในร่างกายของเรา ในเมื่อสลัดจากความรักในร่างกายของเราได้ มันก็สลัดจากความรักในร่างกายคนอื่นได้ เพราะความรักจริงๆ นะ เรารักร่างกายเรามากที่สุด แทนที่จะรักคนอื่น เมื่อตัดได้อย่างนี้อารมณ์มันจะเป็นสุขมาก อารมณ์ความรักความดิ้นรนมันจะไม่มี ไม่มีจริงๆ

ธรรมะหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

การให้อภัย