ครูบาอาจารย์สอนหลวงพ่อมา
หลวงปู่ดูลย์สอนว่า
"พบผู้รู้ ทำลายผู้รู้ พบจิตทำลายจิต
จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง"
เราฟังแล้วไม่เข้าใจหรอก ทำลายอย่างไร
หลวงพ่อพุธ ท่านสอน
"จิตผู้รู้เหมือนฟองไข่ เมื่อลูกไก่เติบ
โตเต็มที่
มันจะเจาะทำลายเปลือกออกมาเอง"
ท่านสอน บอกมันเหมือนลูกไก่ อยู่ในไข่
ลูกไก่โตเต็มที่ มันเจาะเปลือกออ
กมาเอง
มันทำลายผู้รู้เอง
ทีนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ลูกไก่จะเติบโต
ทำไมลูกไก่ถึงโต อะไรอย่างนี้ ไม่รู้
มันรู้อย่างเดียวว่า จิตนี้ยังขาดอะไ
รบางอย่าง
จิตไม่รู้อะไรบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถทำลายผู้รู้ได้
วันหนึ่งเข้าใจขึ้นมา มันไม่รู้อริยสัจ
นี่ หลวงพ่อสอนแบบเทย่ามให้นะ
จำไว้ก่อน เหมือนหลวงปู่ดู
ลย์สอนหลวงพ่อ จำไว้นะ
เพราะว่าถ้าไม่มีคนบอกให้เราเนี่ย
เราเดินด้วยตัวเองนี่ยากแสนเข็ญเลย
บารมีเราไม่พอที่จะไปด้วยตัวเองได้
อาศัยร่องรอยที่ครูบาอาจารย์ทิ้งไว้ให้ ก็เดินได้
เราไม่เก่งอย่างหลวงปู่มั่นนะ หลวงปู่มั่นท่านคลำทางเอา
ท่านก็อ่านหนังสือเหมือนกัน อ่านปริยัติเหมือนกัน
ไปดูในพิพิธภัณฑ์ท่าน ที่ จ.สกลนคร
ก็เห็นมีหนังสือปริยัติอยู่หลายเล่ม
ท่านคลำทาง เจอทาง
เสร็จแล้วท่านก็สอนหลวงปู่ดูลย์ให้ดูจิต
หลวงปู่ดูลย์ดูแล้ว ท่านก็บอกต่อให้
หลวงพ่อมาอีกที
หลวงพ่อก็บอกต่อพวกเราไป
วันใดรู้แจ้งอริยสัจ วันนั้นวัฏฏะจะถ
ล่มลงไปต่อหน้าต่อตา
สังสารวัฏจะถล่มลงไป เมื่อรู้แจ้งอริยสัจ
รู้แจ้งอริยสัจนี่ รู้ทุกข์อันเดีย
วนี่แหละพอเลย
อะไรเป็นทุกข์ รูปธรรม นามธรรม คือทุกข์
ถ้าเห็นถึงขนาดนั้น รูปนี้คือตัวทุกข์
นามนี้คือตัวทุกข์ จิตนี้คือตัวทุกข์
ตัวที่เห็นยากที่สุด คือ จิต
ถ้าเห็นว่าจิตเป็นตัวทุกข์ วัฏฏะถล่มลงตรงนั้นเลย
พวกเราไม่เห็นหรอก พวกเราเห็นว่าจิ
ตนี้เป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง
รู้สึกไหม ยังมีทางเลือก มีสุขกับทุกข์ ปัญญาไม่แจ้งพอ
ถ้าปัญญาแจ้งพอ จะรู้ เหมือนอย่างหลวงปู่เทสก์ก็เคยสอ
นหลวงพ่อ
"นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรตั้งอยู่
นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับไป"
ประโยคของหลวงปู่เทสก์สอนนี่นะใ
นพระไตรปิฎกมี
หลวงปู่จะอ่าน(พระไตรปิฎก)หรือเปล่าไม่รู้นะ
แต่หลวงปู่รู้ธรรมตรงนี้ ท่านภาวนา
ท่านจะเรียนปริยัติ เรียนพระไตรปิฎก
หรือเปล่า ไม่รู้
แต่สิ่งที่ท่านสอนตรงกันกับพระไตรปิฎก
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอะไรตั้งอยู่ ไม่มีอะไรดับไป
พอรู้ตรงนี้เท่านั้นเอง จิตมันสลัดคืนรู
ปคืนนามให้โลกไป
ท่านบอก "สิ้นโลก" รูปนามนั้นคือตั
วโลก
ท่านบอกสิ้นโลก แล้วเหลืออะไร เหลือธรรมอยู่ เหลือนิพพาน
เพราะฉะนั้น วางรูปนามลงไปแล
้วเห็นนิพพาน
ท่านแต่งหนังสือเรื่องหนึ่งนะ "สิ้นโลก เหลือธรรม" ใครเคยอ่านไหม
ตอนนั้น หนังสือนั้นท่านเพิ่งเขียนใหม่ หลวงพ่อไปวัดพอดี
คนเขาก็บอก เนี่ย ท่านเขียนใหม่ ตื่นเต้นกันใหญ่
เอามาอ่าน ในนั้นมีเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ทั้งนั้นแหละ
ไม่มีอย่างอื่นเลย
ฟังแล้วมันดูลึกซึ้งนะ สิ้นโลก เหลือธรรม
ทำไมมีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา
(ก็ต้อง)อาศัย ศีลสิกขา จิตสิกขา ปัญญาสิกขานั่นแหละ
มันจึงสิ้นโลกได้
จึงวางรูปวางนามได้ เข้าถึงธรรมะแท้
ๆ ถึงพระนิพพาน
ครูบาอาจารย์สอน สำนวนโวหารไม่เหมือนกัน
หลวงปู่เทสก์ "นอกจากทุกข์ไม่
มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีอะไรตั้งอยู่ ไม่มีอะไรดับไป" สอนสิ้นโลกเหลือธรรม
หลวงปู่ดูลย์สอน "พบผู้รู้ ทำลายผู้รู้ พบจิตทำลายจิต
จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง"
เหมือนคนละเรื่องเลย ที่แท้พูดเรื่องเดียวกัน
สำนวนนี่ไม่เหมือนกันเลย ต้องฝึกเอา ค่อยคลำไป
ดูซิ สิ้นโลกแล้วจะเหลือธรรมจริงไหม
หรือสิ้นโลกนี้ ก็ไปเจอโลกหน้า
พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ (591015)
(ตรวจทาน : อ.สรวและทีมงาน)
หลวงปู่ดูลย์สอนว่า
"พบผู้รู้ ทำลายผู้รู้ พบจิตทำลายจิต
จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง"
เราฟังแล้วไม่เข้าใจหรอก ทำลายอย่างไร
หลวงพ่อพุธ ท่านสอน
"จิตผู้รู้เหมือนฟองไข่ เมื่อลูกไก่เติบ
โตเต็มที่
มันจะเจาะทำลายเปลือกออกมาเอง"
ท่านสอน บอกมันเหมือนลูกไก่ อยู่ในไข่
ลูกไก่โตเต็มที่ มันเจาะเปลือกออ
กมาเอง
มันทำลายผู้รู้เอง
ทีนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ลูกไก่จะเติบโต
ทำไมลูกไก่ถึงโต อะไรอย่างนี้ ไม่รู้
มันรู้อย่างเดียวว่า จิตนี้ยังขาดอะไ
รบางอย่าง
จิตไม่รู้อะไรบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถทำลายผู้รู้ได้
วันหนึ่งเข้าใจขึ้นมา มันไม่รู้อริยสัจ
นี่ หลวงพ่อสอนแบบเทย่ามให้นะ
จำไว้ก่อน เหมือนหลวงปู่ดู
ลย์สอนหลวงพ่อ จำไว้นะ
เพราะว่าถ้าไม่มีคนบอกให้เราเนี่ย
เราเดินด้วยตัวเองนี่ยากแสนเข็ญเลย
บารมีเราไม่พอที่จะไปด้วยตัวเองได้
อาศัยร่องรอยที่ครูบาอาจารย์ทิ้งไว้ให้ ก็เดินได้
เราไม่เก่งอย่างหลวงปู่มั่นนะ หลวงปู่มั่นท่านคลำทางเอา
ท่านก็อ่านหนังสือเหมือนกัน อ่านปริยัติเหมือนกัน
ไปดูในพิพิธภัณฑ์ท่าน ที่ จ.สกลนคร
ก็เห็นมีหนังสือปริยัติอยู่หลายเล่ม
ท่านคลำทาง เจอทาง
เสร็จแล้วท่านก็สอนหลวงปู่ดูลย์ให้ดูจิต
หลวงปู่ดูลย์ดูแล้ว ท่านก็บอกต่อให้
หลวงพ่อมาอีกที
หลวงพ่อก็บอกต่อพวกเราไป
วันใดรู้แจ้งอริยสัจ วันนั้นวัฏฏะจะถ
ล่มลงไปต่อหน้าต่อตา
สังสารวัฏจะถล่มลงไป เมื่อรู้แจ้งอริยสัจ
รู้แจ้งอริยสัจนี่ รู้ทุกข์อันเดีย
วนี่แหละพอเลย
อะไรเป็นทุกข์ รูปธรรม นามธรรม คือทุกข์
ถ้าเห็นถึงขนาดนั้น รูปนี้คือตัวทุกข์
นามนี้คือตัวทุกข์ จิตนี้คือตัวทุกข์
ตัวที่เห็นยากที่สุด คือ จิต
ถ้าเห็นว่าจิตเป็นตัวทุกข์ วัฏฏะถล่มลงตรงนั้นเลย
พวกเราไม่เห็นหรอก พวกเราเห็นว่าจิ
ตนี้เป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง
รู้สึกไหม ยังมีทางเลือก มีสุขกับทุกข์ ปัญญาไม่แจ้งพอ
ถ้าปัญญาแจ้งพอ จะรู้ เหมือนอย่างหลวงปู่เทสก์ก็เคยสอ
นหลวงพ่อ
"นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรตั้งอยู่
นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับไป"
ประโยคของหลวงปู่เทสก์สอนนี่นะใ
นพระไตรปิฎกมี
หลวงปู่จะอ่าน(พระไตรปิฎก)หรือเปล่าไม่รู้นะ
แต่หลวงปู่รู้ธรรมตรงนี้ ท่านภาวนา
ท่านจะเรียนปริยัติ เรียนพระไตรปิฎก
หรือเปล่า ไม่รู้
แต่สิ่งที่ท่านสอนตรงกันกับพระไตรปิฎก
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอะไรตั้งอยู่ ไม่มีอะไรดับไป
พอรู้ตรงนี้เท่านั้นเอง จิตมันสลัดคืนรู
ปคืนนามให้โลกไป
ท่านบอก "สิ้นโลก" รูปนามนั้นคือตั
วโลก
ท่านบอกสิ้นโลก แล้วเหลืออะไร เหลือธรรมอยู่ เหลือนิพพาน
เพราะฉะนั้น วางรูปนามลงไปแล
้วเห็นนิพพาน
ท่านแต่งหนังสือเรื่องหนึ่งนะ "สิ้นโลก เหลือธรรม" ใครเคยอ่านไหม
ตอนนั้น หนังสือนั้นท่านเพิ่งเขียนใหม่ หลวงพ่อไปวัดพอดี
คนเขาก็บอก เนี่ย ท่านเขียนใหม่ ตื่นเต้นกันใหญ่
เอามาอ่าน ในนั้นมีเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ทั้งนั้นแหละ
ไม่มีอย่างอื่นเลย
ฟังแล้วมันดูลึกซึ้งนะ สิ้นโลก เหลือธรรม
ทำไมมีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา
(ก็ต้อง)อาศัย ศีลสิกขา จิตสิกขา ปัญญาสิกขานั่นแหละ
มันจึงสิ้นโลกได้
จึงวางรูปวางนามได้ เข้าถึงธรรมะแท้
ๆ ถึงพระนิพพาน
ครูบาอาจารย์สอน สำนวนโวหารไม่เหมือนกัน
หลวงปู่เทสก์ "นอกจากทุกข์ไม่
มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีอะไรตั้งอยู่ ไม่มีอะไรดับไป" สอนสิ้นโลกเหลือธรรม
หลวงปู่ดูลย์สอน "พบผู้รู้ ทำลายผู้รู้ พบจิตทำลายจิต
จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง"
เหมือนคนละเรื่องเลย ที่แท้พูดเรื่องเดียวกัน
สำนวนนี่ไม่เหมือนกันเลย ต้องฝึกเอา ค่อยคลำไป
ดูซิ สิ้นโลกแล้วจะเหลือธรรมจริงไหม
หรือสิ้นโลกนี้ ก็ไปเจอโลกหน้า
พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๙ (591015)
(ตรวจทาน : อ.สรวและทีมงาน)