23.5.18

รู้ชัด กตัญญู อุเบกขา


“รู้ชัด กตัญญู อุเบกขา” คือเครื่องแสดงจิตที่ก้าวหน้า
******************************************************

เวลาคนมาภาวนา มักจะคิดว่า ความก้าวหน้าอยู่ที่การข้ามโคตร หวังอยากเห็นหรือการได้อภิญญาเหนือวิสัย เหล่านั้นไม่ใช่ความก้าวหน้าที่แท้จริง เป็นเพียงทางผ่านที่มีความเป็นดาบสองคม เพราะอภิญญานั้นเป็นโลกียะอภิญญา ทำหลงผิด หลงอัตตา เกิดมานะคือคิดว่าตนมีคุณวิเศษ แล้วตามมาด้วยจิตลำพอง ผยองใจ ทวีอัตตามากขึ้น มองไม่เห็นความผิดปกติของจิตตน เมื่อใครทำอะไรไม่ถูกใจ หรือถูกติเตียน ความดีงามที่เคยมีอยู่บ้าง ก็ถูกตีคว่ำ พลิกขั้วได้จากดีเป็นเลว ได้แบบเหลือเชื่อ 

...ความก้าวหน้าในการปฏิบัติวิปัสสนาที่แท้จริง วัดด้วยเหตุ 3 ประการคือ
..
1. การมีสติสัมปชัญญะที่คมขึ้น คือการรู้ให้ชัด ทำให้รู้เท่าทันกิเลส เมื่อรู้ชัด ก็จะไม่พลั้งเผลอไปตามอำนาจการบีบคั้นของกิเลสให้หลงทำชั่วหรือทำผิดศีล เมื่อเกิดอกุศลจิต ความรู้ชัดจะช่วยข่มจิตและระงับยับยั้ง สังเกตอาการผิดปกติของจิตได้ทัน 
2. การมีจิตกตัญญู ที่ออกมาจากจิตใจ เพราะจิตกตัญญู คือผลลัพธ์ที่เกิดจากการเผาความมืดบอด ความหยาบกระด้างเป็นนิสัยของกิเลส เมื่อเผาได้ จิตจึงอ่อนโยนและมีสำนึกกตัญญูเกิดขึ้นท่วมท้นใจ 

3. จิตที่เป็นอุเบกขา คือจิตที่ไม่สะดุ้งไหว ในสุข และทุกข์ ละวางอารมณ์ที่มากระทบใจได้เร็วขึ้น ไม่เก็บไปคิดวน
..
“รู้ชัด กตัญญู อุเบกขา” นี่ คือคุณลักษณะของจิตที่แสดงถึงความก้าวหน้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่โลกียะอภิญญาใดที่มนุษย์โลกแสวงหา อยากมีอยากเป็น หลงชื่นชมและให้ราคา พระพุทธเจ้าจีงไม่ทรงโปรดโลกีะยอภิญญาเหล่านี้ เพราะมันมีมุมที่ทำลายธรรมของผู้ได้พบทางแล้วอย่างเลือดเย็น โดยผู้ถูกทำลายไม่รู้ตัวเลย..

อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล

อย่าสำคัญตน

อย่าสำคัญตน