เราทุกคน อยากจะมีแต่ความสุข ตลอดเวลา
แต่ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้.!
ถ้าเราสามารถเข้าใจ "เหตุ" ที่ทำให้ความรู้สึกของเราต่าง ๆ กันไป
ก็จะทำให้ความรู้สึกที่ไม่พอใจน้อยลง.
แต่ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้.!
ถ้าเราสามารถเข้าใจ "เหตุ" ที่ทำให้ความรู้สึกของเราต่าง ๆ กันไป
ก็จะทำให้ความรู้สึกที่ไม่พอใจน้อยลง.
"ชีวิต"
เป็นสิ่งที่บังคับบัญชาไม่ได้เลย.!
เพราะว่า
ชีวิตแต่ละขณะ....เกิดขึ้น เมื่อมี "ปัจจัยปรุงแต่ง"
ซึ่งทำให้ชีวิตเป็นไป (ในลักษณะ) ต่าง ๆ
เป็นสิ่งที่บังคับบัญชาไม่ได้เลย.!
เพราะว่า
ชีวิตแต่ละขณะ....เกิดขึ้น เมื่อมี "ปัจจัยปรุงแต่ง"
ซึ่งทำให้ชีวิตเป็นไป (ในลักษณะ) ต่าง ๆ
เช่น
เราอาจจะคิดว่า....เรา"บังเอิญ" เกิดมาในประเทศนั้น ๆ
และ เราแต่ละคน ก็มีชีวิตที่ต่างกันไป
แต่ ความจริงแล้ว
ชีวิต เป็นไปตาม "ปัจจัย" ทั้งสิ้น.
เราอาจจะคิดว่า....เรา"บังเอิญ" เกิดมาในประเทศนั้น ๆ
และ เราแต่ละคน ก็มีชีวิตที่ต่างกันไป
แต่ ความจริงแล้ว
ชีวิต เป็นไปตาม "ปัจจัย" ทั้งสิ้น.
เพราะฉะนั้น
เราจึงควรศึกษาให้ "เข้าใจชีวิต"
ควรเรียนรู้ เพื่อ "เข้าใจชีวิต" ในขณะนี้.!
คนเราทุกคน มีความคิดต่างกัน มีความรู้สึกต่างกัน
เพราะมี "ปัจจัย" ที่ต่างกัน.
เราจึงควรศึกษาให้ "เข้าใจชีวิต"
ควรเรียนรู้ เพื่อ "เข้าใจชีวิต" ในขณะนี้.!
คนเราทุกคน มีความคิดต่างกัน มีความรู้สึกต่างกัน
เพราะมี "ปัจจัย" ที่ต่างกัน.
เราคิดว่า มี "ตัวตน"......คิดว่ามี "เรา"
แต่ สิ่งที่คิดว่าเป็น "เรา" นั้น คือ "ขณะนี้"
คือ ขณะที่กำลังเห็น หรือกำลังได้ยิน หรือกำลังได้กลิ่น
หรือกำลังลิ้มรส หรือกำลังกระทบสัมผัสทางกาย
หรือกำลังคิดนึกเรื่องราวต่าง ๆ ทางใจ
(ตามปกติ ตามความเป็นจริง ในชีตประจำวัน)
แต่ สิ่งที่คิดว่าเป็น "เรา" นั้น คือ "ขณะนี้"
คือ ขณะที่กำลังเห็น หรือกำลังได้ยิน หรือกำลังได้กลิ่น
หรือกำลังลิ้มรส หรือกำลังกระทบสัมผัสทางกาย
หรือกำลังคิดนึกเรื่องราวต่าง ๆ ทางใจ
(ตามปกติ ตามความเป็นจริง ในชีตประจำวัน)
เช่น ในขณะที่กำลังเห็น (เป็นต้น) นั้น
เห็นสิ่งที่น่าพอใจบ้าง หรือ เห็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจบ้าง
แต่ การเห็นเช่นนั้น เกิดขึ้นต่างขณะกัน
หมายความว่า
เป็นการเห็นที่ไม่เหมือนกัน...คือ เกิดขึ้นต่างขณะกัน
(การเห็นที่ไม่เหมือนกัน ดังกล่าว)
จะเกิดขึ้นขณะเดียวกัน ไม่ได้.!
เห็นสิ่งที่น่าพอใจบ้าง หรือ เห็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจบ้าง
แต่ การเห็นเช่นนั้น เกิดขึ้นต่างขณะกัน
หมายความว่า
เป็นการเห็นที่ไม่เหมือนกัน...คือ เกิดขึ้นต่างขณะกัน
(การเห็นที่ไม่เหมือนกัน ดังกล่าว)
จะเกิดขึ้นขณะเดียวกัน ไม่ได้.!
การที่เรา "เข้าใจชีวิตชั่วขณะหนึ่ง ๆ" นั้น
ไม่จำเป็นต้องคิดว่า เป็นเรื่องของศาสนาใดศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะ
เพราะว่า "ความจริง"
เช่น
การเห็น การได้ยิน และ ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น (แต่ละขณะ)
เป็น "สิ่งที่มีจริง"
ไม่ว่าเราจะเรียกการเห็น หรือ การได้ยิน เป็นต้นนั้น
ด้วยภาษาอะไรก็ตาม.
สิ่งที่คุณคิดว่าเป็น "ฉัน" หรือ "ตัวฉัน" ซึ่งกำลังรู้เรื่องราวที่ฝัน นั้น
ความจริงก็คือ "วิญญาณ" ซึ่งรู้....เพราะมี "ร่างกาย" และ "จิตใจ"
หรือจะกล่าวว่า "ร่างกาย" และ "วิญญาณ" ก็ได้.
วิญญาณฝัน วิญญาณหลับ วิญญาณชอบ-ไม่ชอบ
วิญญาณสบาย-ไม่สบาย ฯลฯ
ไม่จำเป็นต้องคิดว่า เป็นเรื่องของศาสนาใดศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะ
เพราะว่า "ความจริง"
เช่น
การเห็น การได้ยิน และ ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น (แต่ละขณะ)
เป็น "สิ่งที่มีจริง"
ไม่ว่าเราจะเรียกการเห็น หรือ การได้ยิน เป็นต้นนั้น
ด้วยภาษาอะไรก็ตาม.
สิ่งที่คุณคิดว่าเป็น "ฉัน" หรือ "ตัวฉัน" ซึ่งกำลังรู้เรื่องราวที่ฝัน นั้น
ความจริงก็คือ "วิญญาณ" ซึ่งรู้....เพราะมี "ร่างกาย" และ "จิตใจ"
หรือจะกล่าวว่า "ร่างกาย" และ "วิญญาณ" ก็ได้.
วิญญาณฝัน วิญญาณหลับ วิญญาณชอบ-ไม่ชอบ
วิญญาณสบาย-ไม่สบาย ฯลฯ
"วิญญาณ" แตกต่างจาก "ร่างกาย"
ร่างกาย....ไม่เห็นอะไร แต่ วิญญาณ.....เห็น
ร่างกาย.....คิดไม่ได้ แต่ วิญญาณ....คิดได้....
ร่างกาย....ไม่เห็นอะไร แต่ วิญญาณ.....เห็น
ร่างกาย.....คิดไม่ได้ แต่ วิญญาณ....คิดได้....
ที่มา--- kokanut /dhammathai
No comments:
Post a Comment