2.12.10

ความสุขที่เกิดจากความยินดี

สิ่งแรกที่เราควรสังเกตก็คือ ความสุขทั้ง ๖ ข้อเกิดจากความยินดี
หลายคนเข้าใจว่าชีวิตนักปฏิบัติธรรมไม่น่าจะมีอะไรสนุก
ที่มองอย่างนี้เพราะยังจับหลักไม่ได้ว่า
ตัวความสุขอยู่ที่ “ความยินดี” มากกว่า “สิ่งที่ยินดี”
นักปฏิบัติไม่ต้องสละความยินดีเสมอไป
เพียงแต่ว่าต้องย้ายความยินดีของตนออกจากสิ่งที่ทำให้จิตตกต่ำ
ไปไว้ในสิ่งที่น้อมนำจิตออกจากทุกข์
สรุปว่าไม่ขาดทุนเลย มีแต่ได้กำไร

ความยินดีในธรรม คือ ยินดีในการฟังธรรม
การอ่านธรรมการท่องธรรม การพิจารณาธรรม
การปฏิบัติธรรมในทุกระดับยิ่งศึกษาและปฏิบัติธรรมยิ่งมีความสุข
เพราะการเห็นความจริง ความลึกซึ้งมากขึ้นๆ โดยลำดับ
เรายินดีในธรรมแล้ว ความยินดีในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม
ต้องค่อยๆ หายไปเอง เพราะมันขัดกัน
เมื่อเรายินดีในธรรมแล้ว เราเห็นคนอื่นดี เราไม่อิจฉา
กลับแช่มชื่นว่า ธรรมที่ปรากฏในคนนั้นงามจริงๆ
ธรรมเกิดที่ไหนก็งามที่นั่น
เราเห็นความงามของธรรมที่ไหนเราก็สุขที่นั่น
ตาเราเย็น ใจเราสงบ

ผู้ยินดีในการภาวนา ก็มีความสุข
เพราะเห็นสิ่งดีงามในตนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แม้ในเวลาที่การภาวนายังไม่ได้ผลมากนัก
นักปฏิบัติมีความสุขด้วยพลังศรัทธาว่า กำลังตามรอยพระอรหันต์
ถ้าทำไปเรื่อยๆ ไม่ท้อแท้เราต้องสงบแน่
เชื่อมั่นว่าการภาวนามีผลจริง และเป็นทางเดียวที่นำสัตว์โลก
ไปสู่การตรัสรู้ธรรม อย่างนี้เราสามารถมีความสุขกับทุกก้าวที่เราเดิน

ความยินดีในการละ ก็เหมือนกัน
ถ้าเรายังเสียดายกิเลสเราจะปล่อยวางไม่ได้
เมื่อเราพิจารณาเห็นกิเลสว่า เป็นสิ่งกีดกันไม่ให้เราเจริญในธรรม
เราจะยินดีในการละกิเลสตลอดเวลา
โอกาสจะฝืนและชนะกิเลส โอกาสที่จะมีความสุขในการชำระจิตใจ
ก็เกิดขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน
ละกิเลสได้แม้ชั่วคราวก็ตาม หากเรายินดีได้ก็มีความสุข

---------------------------
ที่มา---Nichapa Taworn/fb.com

No comments:

Post a Comment

การให้อภัย