การเดินทางไปในเส้นทางที่โดดเดี่ยว
ทุกคนมักภาวนาให้พานพบเพื่อนร่วมทางที่จะเดินเคียงข้างกันไป
ในเส้นทางสายชีวิตที่ยาวไกลมีทางแยกมากมายที่มาบรรจบวกเวียนเข้าหากัน
บุคคลหลายรูปแบบผ่านเข้ามาในเส้นทางเดิน
ล้วนผู้คนมากมายหลากหลายจิตใจ
บางครั้งเดินไปด้วยกันเป็นระยะทางยาวไกล
บางครั้งพบกันไม่ทันไรก็แยกทางกันไปตามเส้นทางเดินของแต่ละชีวิต
เปรียบเสมือนถนนหลายๆเส้นที่มาพาดผ่านกัน
บางครั้งมาตัดกัน มาบรรจบกัน ใช้เส้นทางเดียวกัน แล้วก็แยกแตกสาขากันออกไป
ชีวิตจึงมีค่าแค่การเดินไปบนถนนที่ตัดผ่านกันเท่านั้นหรือ
เมื่อถึงปลายสุดของถนนยังไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร
แต่ทุกคนก็เดินหน้าต่อไปโดยไม่รู้ว่าจะไปสู่สิ่งใด
การเก็บเกี่ยวประสบการณ์เสพอารมณ์ความรู้สึกระหว่างเส้นเดินทาง
บางครั้งทำให้เราหยุดเดินต่อไปโดยคิดว่าสิ่งนั้นเป็นที่สุดของเส้นทางเดิน
แท้จริงแล้วมันเป็นแค่ดอกไม้แห่งกาลเวลาที่ชูช่องอกงามให้เราได้เชยชมไปตลอดเส้นทาง
แล้วทำไมทุกคนกลับลืมที่จะคิดถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางเดิน
ใช่ว่าเส้นทางเดินต่างๆจะถูกกำหนดขึ้นมาก่อนล่วงหน้าก็หาไม่
แต่เราเองต่างหากที่เป็นผู้กำหนดเส้นทางเดินเหล่านั้น
เรามักตัดสินใจเลือกเดินไปในทางที่ชอบ ที่รัก ที่สะดวก สบายเมื่อถึงทางแยก
มัวเพลิดเพลินฉกฉวยประสบการณ์เสพอารมณ์ความรู้สึกไปตลอดเส้นทาง
โดยไม่ได้คำนึงถึงจุดสิ้นสุดของปลายทาง
ว่าที่จริงแล้วเราเดินไปตามทางเพื่อเก็บเกี่ยวสิ่งที่อยู่ข้างทาง
หรือเพื่อไปหาที่สุดของปลายทางกันแน่
และที่สุดของปลายเส้นทางนี้คืออะไร
แล้วคุณละคุณอยากให้เป็นอย่างไร
/บทสรุปที่สุดของปลายทาง
--------------
เพราะว่าโลกคือละคร
ทุกบทตอนยอกย้อนเกินกำกับ
ไม่มีใครคนไหนเคยได้รับ
ความสมบูรณ์พูนนับกับอารมณ์
สวมบทบาทเวียนว่ายสายชีวิต
บ่วงจริตติดตามความขื่นขม
เราใช่ไหมไขว่คว้าล้าละทม
เพราะฝังบ่มจมอยู่คู่กายใจ
เมื่อเวทีที่สร้างย่างเยื้องเดิน
ยากเหลือเกินเมินหมางเส้นทางไหน
ทุกรอยทางสร้างเงื่อนเบือนบิดไป
ต้องผูกไว้ตัวตนหนทางเดิน
ทางแสนสุขคือทางห่างตัวตน
ย่างทุกหนบนทางร้างห่างเหิน
แสงพระธรรมนำส่องช่องทางเดิน
ไม่ยากเกินเดินสู่ประตูชัย
ใช้สติสัมปชัญญะชนะแจ้ง
ไร้สำแดงสังขารหว่านเงื่อนไข
สำรอกออกตัณหาราคะใจ
หมดเยื่อใยอวิชชาขันธ์ห้าตน
สมาธิหนุนพาปัญญาเกิด
ไล่ตะเพิดกามคุณที่ขุนขน
ใช้สติสมาธิปัญญายล
จะมีหนทางไหนให้คนเดิน
ชีวิตดั่งน้ำค้างหาว กรรมสิ้น เวรหมด ใจหลุดพ้น
ตำนานแห่งสายน้ำ
ทุกคนมักภาวนาให้พานพบเพื่อนร่วมทางที่จะเ
ในเส้นทางสายชีวิตที่ยาวไกลมีทางแยกมากมาย
บุคคลหลายรูปแบบผ่านเข้ามาในเส้นทางเดิน
ล้วนผู้คนมากมายหลากหลายจิตใจ
บางครั้งเดินไปด้วยกันเป็นระยะทางยาวไกล
บางครั้งพบกันไม่ทันไรก็แยกทางกันไปตามเส้
เปรียบเสมือนถนนหลายๆเส้นที่มาพาดผ่านกัน
บางครั้งมาตัดกัน มาบรรจบกัน ใช้เส้นทางเดียวกัน แล้วก็แยกแตกสาขากันออกไป
ชีวิตจึงมีค่าแค่การเดินไปบนถนนที่ตัดผ่าน
เมื่อถึงปลายสุดของถนนยังไม่มีใครรู้ว่ามั
แต่ทุกคนก็เดินหน้าต่อไปโดยไม่รู้ว่าจะไปส
การเก็บเกี่ยวประสบการณ์เสพอารมณ์ความรู้ส
บางครั้งทำให้เราหยุดเดินต่อไปโดยคิดว่าสิ
แท้จริงแล้วมันเป็นแค่ดอกไม้แห่งกาลเวลาที
แล้วทำไมทุกคนกลับลืมที่จะคิดถึงจุดสิ้นสุ
ใช่ว่าเส้นทางเดินต่างๆจะถูกกำหนดขึ้นมาก่
แต่เราเองต่างหากที่เป็นผู้กำหนดเส้นทางเด
เรามักตัดสินใจเลือกเดินไปในทางที่ชอบ ที่รัก ที่สะดวก สบายเมื่อถึงทางแยก
มัวเพลิดเพลินฉกฉวยประสบการณ์เสพอารมณ์ควา
โดยไม่ได้คำนึงถึงจุดสิ้นสุดของปลายทาง
ว่าที่จริงแล้วเราเดินไปตามทางเพื่อเก็บเก
หรือเพื่อไปหาที่สุดของปลายทางกันแน่
และที่สุดของปลายเส้นทางนี้คืออะไร
แล้วคุณละคุณอยากให้เป็นอย่างไร
/บทสรุปที่สุดของปลายทาง
--------------
เพราะว่าโลกคือละคร
ทุกบทตอนยอกย้อนเกินกำกับ
ไม่มีใครคนไหนเคยได้รับ
ความสมบูรณ์พูนนับกับอารมณ์
สวมบทบาทเวียนว่ายสายชีวิต
บ่วงจริตติดตามความขื่นขม
เราใช่ไหมไขว่คว้าล้าละทม
เพราะฝังบ่มจมอยู่คู่กายใจ
เมื่อเวทีที่สร้างย่างเยื้องเดิน
ยากเหลือเกินเมินหมางเส้นทางไหน
ทุกรอยทางสร้างเงื่อนเบือนบิดไป
ต้องผูกไว้ตัวตนหนทางเดิน
ทางแสนสุขคือทางห่างตัวตน
ย่างทุกหนบนทางร้างห่างเหิน
แสงพระธรรมนำส่องช่องทางเดิน
ไม่ยากเกินเดินสู่ประตูชัย
ใช้สติสัมปชัญญะชนะแจ้ง
ไร้สำแดงสังขารหว่านเงื่อนไข
สำรอกออกตัณหาราคะใจ
หมดเยื่อใยอวิชชาขันธ์ห้าตน
สมาธิหนุนพาปัญญาเกิด
ไล่ตะเพิดกามคุณที่ขุนขน
ใช้สติสมาธิปัญญายล
จะมีหนทางไหนให้คนเดิน
ชีวิตดั่งน้ำค้างหาว กรรมสิ้น เวรหมด ใจหลุดพ้น
ตำนานแห่งสายน้ำ
No comments:
Post a Comment