27.12.11

วิญญาณตาพร บรรพชนของปิยธิดา




วิญญาณตาพร บรรพชนของปิยธิดา

จิตญาณมาแสดงประจักษ์หลักฐาน

ณ มูลนิธิชินบัญชร ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

วันจันทร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา๑๔.๑๐น.

มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่างเพื่อจะมาบอกเรื่องราว

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว เขาว่าให้ช่วยพูด มาถึงพร้อมกับไอ้ตัวเล็กนั่นแหละ มา


พร้อมกัน ๑๐ กว่าคน ตอนนี้ยังอยู่ข้างนอกกันหลายคนลูก ยังไม่ได้ไปไหน เมื่อตอน


เช้าได้กินข้าวแล้วแต่ไม่อร่อยเหมือนกินกับอีหนูนี่ ิ ตามาอยู่ในร่างของอีหนูคนนี้


เวลากินอะไรจะอร่อยกว่าตอน เป็นวิญญาณ เมื่อก่อนตาเอาใบเล็บครุฑจิ้มกินกับน้ำ


พริกแห้ง  ตาเป็นคนปากนคร ตายตอนอายุ ๑๐๑ ปี แก่ตายอยู่ไป ก็หนักลูกเอ๊ยถือ


ไม้เท้าด้วย ตอนนั้นเป็นยุคสมัยรัชกาลที่ ๓ ตาได้มาเพราะลูกหลานมา 


ตาเห็นลูกหลานตาสวยเหลือเกิน อีหนู คนนั้นตัวเล็กๆ ไปไหนแล้วล่ะ  ตาชื่อ พร 


ภรรยาชื่อ ผ่องศรี มีลูก ๔-๕ คน ตอนนี้ไม่รู้ว่า ลูกยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ พราะไม่พบ


กันนานแล้ว  ก่อนจะมาที่นี่ตาอยู่ข้างล่าง (นรก) อยู่ขุมที่ ๖ ที่มาวันนี้ลูก หลานตา


มา(เป็นบรรพชนของ ด.ญ.ปิยธิดาจันทร์แก้ว) ถ้าลูก หลานไม่มาเขาไม่ให้มา อีหนู


คนนี้มันเรียบร้อย ตาเป็นบรรพชน รุ่นปลายๆ แล้วลูกเอ๊ย ตารู้ว่าเขาเป็นลูกหลานตา 


ตาเห็น เขาก็บอกด้วย คนแก่เขา บอกคนดำๆน่ะลูก เขาบอกว่า โน่น! ลูกหลานมา 


แต่มันมาสาย มาช้าน่ะ  


ตามาพร้อมอีตัวเล็กมากัน ๑๐ กว่าคน ตอนนี้ไอ้ตัวเล็กไป ไหน โน่น! มันเล่นอยู่ริม


ป่าโน่น เมื่อเช้ามากินน้ำข้าวกัน มันดูดเหมือนดูดนมแม่มันนั่นแหละ ส่วนคนที่ปาก


[เท่ารูเข็มมันกินเส้นนี่แหละ เขาพลอยกินกับ ตา เขาให้อยู่จนถึงโน่นแหละ วันที่ 


๑๔-๑๕ โน่นแหละพวกเจ้าทำงานใหญ่นะลูก ลำโพงดังลั่นไปหมดแล้ว ที่เวทีหน้า


บ้านโน่น เมื่อก่อน  ตาหาแต่ปลาในคลอง จับปลาหมอปลาช่อน จับลูกปลาในแอ่ง


เล็กๆ เอามาคั่วแห้ง  สมัยนั้นอากาศก็ดี มลภาวะก็ไม่มี สารเคมีก็ไม่มี สบายนะ ตอน


นั้น ผักก็สมบูรณ์ เป็นผักปลอดสารพิษ  แต่สมัยนี้เขาลำบากนะ เพราะกินสารเคมี


เข้าไปร่างกายแย่หมดแล้ว ขี้โรค เหนื่อยง่าย หอบง่าย ทำอะไรไม่ค่อยเป็นกันนานๆ 


ตาได้มาสักที หลานพามาตาก็ได้บุญ

ในตระกูลได้มาสักคน บรรพบุรุษก็ได้มาด้วย  ข้างล่างเตรียมงานเหมือนงานเดือนใน


นรกเขาประกาศให้เตรียมตัวให้มารับบุญ ลูกหลานจะ สร้างบุญมาให้ ที่นี่เป็นงาน


ใหญ่ไม่ใช่งานธรรมดา สิบเครื่องไฟดังไปทุกทิศ    เขาให้มารับบุญที่นี่ เขาเรียกที่นี่


ว่าพุทธสถาน บอกว่า ถ้ามาที่นี่ได้เต็มอิ่ม เขามีอาหารเลี้ยงฟรี เลี้ยงเฉพาะปู่ย่า ตา 


ยาย วิญญาณผีก็ได้กิน สัมภเวสีก็ได้กิน สัตว์นรกก็ได้กิน ผีเปรต ทุกวิญญาณเลย


ลูก เขาบอกว่าเฉพาะที่นี่ที่เดียวที่เขาทำกัน ที่อื่นเขาไม่ทำกัน เพราะเขาไม่เชื่อว่า


พวกตาเป็นวิญญาณจะมีจริง เขาไม่เชื่อ ข้างล่างเขาประกาศกัน นี่คือประจักษ์หลัก

ฐานนะลูก  ที่ตาได้มานั่งพูด ตายืมปากแม่หนูนี่พูด ถึงแม้เสียงไม่เพราะไม่หวาน


เหมือนวัยรุ่นก็ทนฟังหน่อยนะลูกนะ เป็นวิญญาณผีจริงๆนะ ตามาแล้วตาได้กินข้าว


กับพวกเจ้าด้วย ถ้าตาไม่ได้อาศัยร่าง แม่หนูคนนี้ ตาก็ไม่ได้กินข้าวกับช้อนหรอกลูำก 


อยู่ข้างนอกไม่มีกายสังขารกินรสชาติน่ะลูก  อร่อย คนละแบบกัน แต่อิ่มเหมือนกัน


ลูก ขอบใจนะลูกที่ให้ความหวัง สัมภเวสีทั้งหลาย วิญญาณที่พเนจร บุญที่พวกเจ้า 


สร้างมันใหญ่หลวงมาก มรรคผลไม่ใช่น้อยๆ ตายังละอายใจที่เมื่อก่อนไม่เคยคิด


สร้างบุญกุศลเหมือนพวกเจ้า ถ้าตาคิดว่านรกมีจริง จะไม่ทำบาปสักนิดเดียว จะทำ

แต่บุญเหมือนพวกเจ้านี่แหละ ตาไม่อยากไปนรกแล้ว ในนรกมีแต่ความเจ็บปวด


ทรมาน ตาติดเบ็ด เพราะเมื่อก่อนเคยตกเบ็ด โดนตะขอเกี่ยวคอหอย ตาถูกแขวน 


คอมาแล้ว เมื่อก่อนตาชอบตกปลาเกี่ยวคอปลาช่อน เขาบอกว่านี่แหละเกี่ยวคอ


เพื่อนๆ เกี่ยว เราบ้าง ตาไปมาแล้วลูกเอ๊ย เรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโกใครทำอะไรกับ


เพื่อนไว้ เจ้าก็ได้รับเช่นนั้น แต่นี่ พวกเจ้าโชคดีที่พวกเจ้ามาอยู่กับพระที่ตามาวันนี้


ตามาขอขมาลาโทษทุกคนที่ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าหน้าว่าจะมาทานข้าวด้วย




สมัยที่ตา มีชีวิต อยู่ปากนคร วัดไม่มีหรอกลูก เวลาจะไปวัด ก็ต้องเดินไปที่ท่าศาลา


โน่น จะทำบุญสักทีก็เดินกันไกล เมื่อก่อน วัดไม่ค่อยมี เดินไปทางทิศตะวันตก ทาง


บางโหนด ออกเดินมาตั้ง แต่ไก่เริ่มขัน ไปถึงวัดก็สว่างแล้ว เดินกันครึ่งวัน  สมัยนั้น


ทำบุญเอาข้าวสารมากระป๋องหนึ่งไปถวายพระ ใส่ผ้าขาวม้าผูกเอวมา พระท่านหุง


ฉันเอง จะเอาข้าวสุกมาได้อย่างไร กว่าจะถึงวัดบูดหมดพอดี ส่วน คนที่อยู่ใกล้ๆ 


เขาก็เอาข้าวสุกไป ทำบุญเสร็จตอนบ่าย ก็เดินทางกลับบ้าน ถึงปากนครตอน มืดๆ 


วันหนึ่งพอดีนะ สมัยนั้นเขาทำบุญที่วัดบางโหนด เมื่อก่อนไม่ใช่เป็นวัดเสียทีเดียว 


อยู่กลางท้องนา มีโบสถ์อย่างเดียว มีพระอยู่ ๒ รูป พระท่านน่านับถือดูเรียบร้อย 


พูดจาไพเราะ คนไปทำบุญไม่ค่อยมาก เพราะมันไกลไปทำบุญที่วัด ไปในวัน


ธรรมดาบ้าง วันพระบ้าง เวลาเขามี งานใหญ่ก็ไปนอนวัด ไปกวาดลานวัดบุญที่


สร้างไว้ พอลงไปข้างล่างเขามีชื่ออยู่ในบัญชีด้วย


ลูกหลานเอ๋ย นรกมีจริงๆ ไม่ได้โกหก ที่ตาได้มาเร็วเพราะ อะไรล่ะ เพราะตาได้


ทำบุญไว้บ้าง ตอนแรกที่ไปอยู่ข้างล่าง ลงไปอยู่ขุมที่เท่าไม่รู้ มันมืดมอง ไม่เห็น 


ตอนนี้อยู่ขุมที่ ๘  ที่ขุม ๘ เขาขานชื่อนามสกุลกัน ขานชื่อเตรียมตัวว่าลูก หลานมา 


ก็ได้มา เขาดีใจกันใหญ่ ใครบ้างไม่ดีใจ ได้พ้นจากขุม นรกสัก ๒ นาทีก็ยังดี ไม่รู้จะ


พูดคำไหนแล้ว ช่วงที่อยู่ในนรกถูกทรมานด้วยการถูกมัดแขน มัดมือ มัดขา 

กางเหมือนไม้กางเขนถูกตรึงไว้ ที่ตารู้จักไม้กางเขน เพราะคน คริสต์ที่ตายไปอยู่กับ


ตาก็มีก็เลยได้คุยกันความทรมานในขุมนี้ ที่ถูกมัดเพราะเมื่อก่อนตามัดไก่ หาบไก่ไป


ขาย มึงเข้าใจที่ตาพูดไหม ตอนนี้ยังมีการทรมานใครทำ กรรมอะไรก็รับกรรมนั้น 


เทศกาลโปรดพิเศษ เรียกว่าโปรดสามโลก พระแม่องค์ธรรม ปรารถนาให้ดวงญาณ

ซึ่งเป็นลูกๆ กลับบ้าน กลับแดนนิพพาน อานิสงส์นี้ได้รับทั่วถึง วิญญาณในนรกที่


เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไม่ใช่ได้รับแต่การทรมาน ทรมานก็น้อยลงไม่เหมือนเมื่อ


ก่อน 


ตอนนี้ตัวตาเองรู้สึกว่ามันเบาลง เขาให้อย่างกว้างขวาง ให้โอกาสดีเพราะเป็นความ


ประสงค์ ของพระแม่องค์ธรรมต้องการให้ลูกๆ มีความเจ็บปวดน้อยลง ความผิดที่ทำ


ก็ยังต้องได้รับ เพราะว่ามันมีอยู่วิธีหนึ่งจะทำให้เบาบางลงไป ก็คือสำนึกในความผิด


ของตาที่ได้มาที่นี่เพราะสำนึกแล้ว กว่าจะหลุดมาได้ ทีหลังอย่า ดื้อนะลูก ตาลงนรก


ตั้งนานเพราะตาดื้อ มีทิฐิ ถือว่าตาไม่ผิด ตาถูก ตาทำชั่วตาก็ว่าตาทำถูก ตาดื้อ


อย่างเดียวตาไม่ยอม ตาจึง ติดอยู่นาน ต้องถูกทรมาน เจ็บจนไม่รู้จะพูดออกมา


อย่างไรแล้วลูก 


ผลสุดท้ายตาตัดสินใจยอมความ  ตอนที่ตาลงไปถูกทรมานมีแต่ความเจ็บปวด ไม่รู้


จะได้กิน ตอนไหน ตาจำไม่ได้  มื้อนี้เป็นมื้อแรกหรือตั้งแต่ตาลงไปข้างล่าง เป็น


ความรู้สึก วันนี้แหละมีความสุข หมายความว่าเป็นมื้อแรกที่ได้กินข้าว ได้กินอาหาร


บางวิญญาณไม่ใช่กินทางกายเนื้อ กินทางวิญญาณ ก็ถือว่าเป็นครั้งแรก สำหรับ


วิญญาณหลายๆดวง ในวันที่ ๑๖ ตุลาคมนี้  สงสารตายายนะลูก เจ้าเป็นมนุษย์ เจ้า


มีข้าวกินทุกวัน บาง ทีตายายเจ้าไม่ได้กินอะไร มัวแต่ร้อง เพราะถูกทรมาน ถูกตี


บ้าง ถูกแทงบ้าง ถูกน้ำร้อนลวกบ้าง ถูกสับมือบ้าง ถูกแขวนคอบ้าง พวกเจ้ายังได้

กินข้าวทุกวัน แต่พวกเขาไม่ได้กิน เหมือนกับตานี่แหละ ตาถูกทรมานมาแล้ว ไม่ได้


กินอะไรเหมือนกัน (ร้องไห้)พวกเจ้าอยากกินอะไรก็ยังได้กิน เพราะเจ้ายังมีชีวิต แต่


พวกตากินอะไรไม่ได้ถ้าเขาไม่สร้างบุญส่งไปให้ ถ้าเขาไม่ชวนให้กินก็ไม่ได้กิน 


พวกเจ้าจะกินน้ำแข็งสักก้อนก็ได้กิน จะกินข้าวเหนียว ก็ได้กิน อยากกินอะไรก็ได้


กินทั้งนั้น  ให้นึกถึงปู่ย่าตายายบ้างนะลูก เขาลำบาก เขาถูกทรมาน ตอนมีชีวิตเพื่อ


ให้พวกเจ้า สบายเขายอมลำบาก บางทีนึกอยากจะกินอะไรสักคำก็กลืนไม่ลง 


นึกถึงลูกหลาน พอตายลงไป วันนี้ลูกหลานไม่ได้นึกถึงเลย มันนึกจะกินอะไรก็

เลี้ยงเพื่อนโน่น มันไม่ได้นึกถึงปู่ย่าตายายเลย 


แต่ตาก็ไม่ว่าเพราะคนมันลืมง่าย เขาก็บอกว่าตาถ้าทำตัวดี นิสัยดีเขาก็จะให้มา ผู้


คุมอยู่ข้าง นอก อย่าพูดถึงผู้คุมสิลูก เสียวสันหลังตาจะบอกว่า ลูกหลานเอ๋ย บรรพ


ชนผู้ที่มีบุญคุณ ปู่ ย่า ตา ยาย เลี้ยงพ่อแม่เรามาก่อน เราเป็นลูกเป็นหลาน ให้รู้จัก


บุญคุณพ่อแม่ ถึงจะไม่รู้จักบุญคุณปู่ยาตายาย แต่กับพ่อแม่อย่าลืม ถ้าไม่มีพ่อแม่


เราก็ไม่ได้เกิด ถึงแม้เราจะไม่ได้กินอาหารสมบูรณ์ 


เพราะฉะนั้นลูกทุกคนหลานทุกคน มีพ่อมีแม่ให้กตัญญู อย่า อกตัญญูเป็นความผิด 


ถ้าเรากตัญญู เรามีแต่บุญกุศล แต่ถ้าเรา อกตัญญู เราก็จะได้แต่บาปกรรมติดดวง


ญาณไป ตาไม่อยากให้ ทุกคนต้องลงไปนรก ตาไม่อยากให้ลูกหลานเหมือนตา ที่


ต้องไป ชดใช้นานแสนนานเกือบไม่ได้ขึ้นมา เกือบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ถ้าไม่ มีการ


โปรดอย่างที่เจ้าพูด ตาก็ไม่ได้มาเห็นหน้าลูกหลาน ตาไม่มีโอกาสจริงๆ เขาจัดที่ให้


ตาอยู่ลูก มีอะไรอีกล่ะ ฝากขอบใจทุกคนนะ ลูกเด็กเล็กแดงด้วย ที่ตาได้มากินข้าว 


ได้มาพูด ได้มาคุย มาขอบุญกุศล ตาขอบใจ ตาไม่ลืม วันนี้ตาได้กินข้าว 


ถ้ามีโอกาสวันหน้าเรา คงได้พบกันอีกในทางบุญนะลูกนะ ขอให้ทุกคนโชคดีมีความ


สุข สร้าง บุญกุศลให้นึกถึงบรรพบุรุษนะลูกเขารักเรา เราก็ต้องรักตอบ อย่่า


อกตัญญูนะ ให้เป็นลูกที่กตัญญู  ขอบใจนะลูก ตั้งใจนะ อย่าทำให้พ่อแม่เสียใจ ให้


เป็น ลูกกตัญญู รักพ่อแม่ อย่าดื้อนะลูก บุญกุศลก็จะถึง ขอให้โชคดีนะ ลูกหลานทุก


คน ไม่รู้โอกาสหน้าจะได้พบกันอีกไหม วันนี้ตาได้มาพบ ตาดีใจ


credit--ธรรมะ สัจจะ







การให้อภัย